บ้านโป่งกวาว เมืองลับแลแห่ง สะเมิงเหนือ
ท่องเที่ยงเชิงนิเวศน์ ณ บ้านโป่งกวาว สัมผัส ธรรมชาติ วัฒนธรรมที่ดีงามและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนของคนในชุมชน
หากคุณมีวันหยุด เพียงไม่กี่วัน คุณอยากไปที่ไหน ที่ที่ไม่ไกล วิวสวยงาม อากาศสดชื่นและมีธรรมชาติซึ่งช่วยปลอบประโลมร่างกายที่เหนื่อยล้าซึ่งสะสมมาจากการทำงานทั้งปี ที่ที่ซึ่งไม่ห่างไกลจากในตัวเมืองเชียงใหม่นัก ต้องเป็นที่นี่ “บ้านโป่งกวาว” ด้วยที่นี่ยังคงความเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรมที่ดีงามและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนของคนในชุมชน
ที่นี่มีอะไรดี ทำไมเราถึงต้องมา “แอ่วดี” ที่นี่
การเดินทางมาบ้านโป่งกวาว
- ถ้าในกรณีที่เราไม่มีรถส่วนตัว สามารถขึ้นรถโดยสารได้ที่กาดหลวง เชียงใหม่ ซึ่งรถจะออกวันละ 1 เที่ยว เวลา 00 น. เท่านั้น ขากลับออกจากหมู่บ้านก็มีรถโดยสารวันละ 1 เที่ยวอีกเหมือนกันคือเวลา 07.00 น.
- ในกรณีที่เราเอารถมาเอง ควรเป็นรถที่มีสภาพที่พร้อมสักนิดนึง เช็คยาง เช็คหม้อน้ำ พร้อมลุยโลด
- บ้านโป่งกวาว สามารถเข้าได้ 2 ทาง คือทาง อำเภอสะเมิง และ อำเภอแม่ริม
พูดถึง บ้านโป่งกวาว เชื่อว่าอาจมีอีกหลายคน ที่ยังไม่รู้เรื่องราวของที่นี่ บ้านโป่งกวาว ตั้งอยู่ที่ ตำบล สะเมิงเหนือ อำเภอ สะเมิง จังหวัด เชียงใหม่ การเดินทางของเรามายังที่นี่นั้นมาด้วยรถตู้ การเดินทางถนนหนทางก็ไม่ได้มายากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องขับด้วยความระมัดระวังสักนิดเนื่องจากถนนค่อนข้างจะแคบในบางช่วงและและบางจุดสูงชันเนื่องจากเป็นภูเขา แต่ก็ไม่เกินใจที่เต็มร้อยของเราที่อยากจะมาสัมผัสที่นี่สักครั้งหนึ่งในชีวิต
นอกจากที่นี่จะมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สมุนไพรหายากหลากหลายชนิด ซึ่งคุณสามารถเดินป่าสัมผัสไปกับเส้นทางสายธรรมชาติพร้อมได้ความรู้เรื่องของสมุนไพรแล้วยังมีเต่าสายพันธุ์หายากอีกชนิดหนึ่ง นั่นคือ เต่าปูลู(เต่าภูเขา)ซึ่งเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากมีการลักลอบนำไปปรุงเป็นยาสมุนไพรและมีราคาแพงมาก เต่าปูลู มีลักษณะที่โดดเด่นจากเต่าชนิดอื่นนั่น คือ มีหัวโต ปากงุ้ม เล็บแหลมคม และมีหางที่ยาวมาก ส่วนหัวไม่สามารถหดเข้ากระดองได้ เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว และมีนิสัยค่อนข้างจะดุร้าย ถ้าจะถามถึงเรื่องการเพาะพันธุ์ของสัตว์ชนิดนี้ ค่อนข้างจะยากพอๆกับการเพาะเห็ดถอบนั่นแหล่ะ เนื่องจาก สัตว์ชนิดนี้จะอาศัยในลำธารน้ำตกที่มีความอุดมสมบูรณ์เท่านั้น…แต่เนื่องจากช่วงที่เราเดินทางมานั้นเป็นฤดูฝน การเดินทางเข้าป่าในช่วงฝนตกจึงค่อนค้างที่จะลำบากพอสมควร เราจึงไม่มีโอกาสได้ยลโฉมเจ้าเต่าปูลู ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย ซึ่งถ้าเป็นฤดูปลายฝนต้นหนาว เราคงจะไม่พลาดเก็บภาพมาฝากแน่นอน
อีกหนึ่งความไม่ธรรมดาของหมู่บ้านนี้คือ หมู่บ้านแห่งนี้มี “สายแร่ทองคำ” ซึ่งเคยมีคณะสำรวจได้มาขอสัมปะทานทำเหมืองแร่ทองคำ แต่เนื่องจากเป็นป่าต้นน้ำ พ่อกำนันและชาวบ้านเล็งเห็นแล้วว่าอาจจะทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้ จึงไม่ได้มีการอนุญาติให้ทำ นอกจากนั้นสมุนไพร เช่น ต้นดีหมี ซึ่งใช้รักษาโรคมะเร็ง และสมุนไพรเฉพาะถิ่นอีกหลากหลายชนิด ชาวบ้านสามารถนำไปใช้ได้แต่ไม่อนุญาตให้นำไปขาย เป็นเหมือนป่าของชุมชนและยังช่วยให้คนในชุมชนสำนึกรักและหวงแหนแผ่นดินเกิดอีกด้วย
จุดชมวิวดูพระอาทิตย์ขึ้นของที่นี่ ก็สวยไม่แพ้ที่อื่นๆ นั่นคือ “ม่อนผาจ๋วง” เป็นลานกว้างโล่ง เหมือนมีคนมากวาดทำความสะอาดตลอดเวลา ที่นี่สามารถมองเห็นไปไกลได้ถึงโครงการหลวงหนองหอย ม่อนผ่าจ๋วง จะอยู่ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถไปเองได้ จากจุดจอดรถ เดินผ่านป่าสนไปประมาณ 150 เมตร
วิถีชีวิตของคนในชุมชน นักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสการใช้ชีวิต กิน อยู่ แบบชาวบ้านที่โฮมสเตย์ของบ้านโป่งกวาวซึ่งราคาไม่แพงเลย เพียงคืนละ 250 บาท/คน อาหารมื้อละ 50 บาท/คน อาหารของที่นี่จะทำมาจากพืชผักที่ชาวบ้านปลูกเอง ซึ่งเป็นผักตามฤดูกาล ปลอดสาร สด สะอาด อร่อย แถมวิวจากโฮมสเตย์ก็สวยจนอดที่จะเก็บภาพไว้ไม่ได้ วิวท้องทุ่งนาและมีหมอกรำไร อากาศเย็นสบาย สามารถนอนได้โดยไม่เปิดพัดลมเลยทีเดียว
เราสามารถเดินเล่นชมบ้านเรือนของชาวบ้านโป่งกวาวซึ่งมีลักษณะสวยงาม บางหลังทำมาจากไม้ประดู่ซึ่งเนื้อไม้จะออกสีแดง ชาวบ้านโป่งกวาวมีเชื้อสายลั้วะ อพยพมาจากไหนนั้นยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ส่วนความเป็นมาของชื่อหมู่บ้าน “โป่งกวาว” เชื่อว่า พ่อน้อยขุนนันทิ เป็นผู้ตั้งชื่อ โดยตั้งจาก ตาน้ำอุ่น ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าโป่ง ซึ่งไหลออกมาใกล้กับต้นทองกวาวขนาดใหญ่ จึงเป็นที่มาของชื่อ “บ้านโป่งกวาว” ในด้านของวัฒนธรรมชาวบ้านนับถือศาสนาพุทธร่วมกับนับถือผี ซึ่งเห็นได้จากวัดในหมู่บ้าน จะมี 2 วัด คือวัดต้นตัน ซึ่งมีอายุมากกว่า 700 ปี และวัดโป่งกวาว ซึ่งสร้างหลังจากวัดต้นตัน การนับถือผีปู่ย่า เจ้าบ้าน ผีขุนน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของวิถีชีวิตของชุมชนที่ควรอนุรักษ์ไว้
หลังจากเดินเที่ยวชมวิถีวิตของคนในชุมชนแล้ว ยังมีที่ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายคือการแช่น้ำแร่โป่งกวาว ซึ่งเราเชื่อว่าไม่แพ้น้ำแร่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่นเลย ที่นี่สะดวกสบายมาก มีบริการที่พักแบบเป็นห้องพัก และแบบบ้านเป็นหลัง ชุดสำหรับแช่ห้องรวม ผ้าเช็ดตัว ห้องอาบน้ำและอาหาร เรียกว่าครบครันกันเลยทีเดียว การแช่น้ำแร่ของเราในครั้งนี้ บอกได้เลยว่าฟินส์มาก น้ำไม่ร้อนและไม่เหม็นกลิ่นกำมะถันจนเกินไป แช่แล้วทำเราตัวเบาและรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ลองมาสัมผัสที่นี่กันค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่าที่นี่ หมู่บ้านโป่งกวาว มีอะไรมากกว่าที่เราคิด…
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย จาก “แอ่วดี”
- สำหรับคนที่ไม่ชินกับทางขึ้นเขาลงดอย ควรกินยากันเมาสักนิดนึงนะค่ะ
- ร้านค้าในชุมชน มีของที่จำเป็นต้องใช้จุกจิกขายค่ะ เช่น ขนม เครื่องดื่มและยากันยุง
- ของฝากขึ้นชื่อของที่นี่คือ จิ้นส้ม(แหนมห่อใบตอง) , น้ำพริกตาแดง
- ปาณิสรา นฤประชา /บทความ
- สรวิชญ์ ,ปาณิสรา /ภาพ
- โฆษณา บิซ-เนจ ทัวร์แอนด์ทราเวล ( Biz-NET Tour&Travel )183/1 หมู่ 7 ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ 50130
183/1 M7 Saimool SankamPhaeng ChiangMai 50130biznej2012@gmail.com Direct Mobile Sale : Ann 092-3155052