“จิบชา เก็บเมี่ยง ณ บ้านแม่แมะ ”
ยามเช้า ณ บ้านต้นไม้กับอากาศเย็นสบาย ฟังเสียงน้ำตก นกร้อง ที่แข่งกันขับขานเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่า สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดแล้วเริ่มออกเดินสำรวจพื้นที่ของหมู่บ้านกลางหุบเขา บ้านแม่แมะกัน เราเดินตามเสียงน้ำตกมาเรื่อยๆ เดินลงเขาพอได้เหงื่อนิดหน่อย ก็พบกับน้ำตกที่ไหลผ่านหมู่บ้าน..มีสะพานไม้ไผ่เล็กๆให้เราพอทรงตัวเดินข้าม ด้านล่างติดกับลำธารยังมีบ้านพักอีกด้วยนะ เป็นบ้านไม้ขนาดกลางถึงจะไม่ได้หรูหรามากมายนัก แต่องค์ประกอบโดยรวมไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ สายธาร ทำให้ที่นี่ดูมีมนต์เสน่ห์ไม่น้อยเลย
เดินชมนกชมไม้พอประมาณเราก็ได้เวลาเดินกลับไปยังด้านบน หมู่บ้านแม่แมะ อาจเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่เป็นหมู่บ้านที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้ค่อนข้างมาก ชาวบ้านที่นี่อัธยาศัยดีกันทุกคน ถ้าหากอยากหลบหนีความวุ่นวายจากในเมืองมาสงบจิตใจที่ไหนสักแห่ง เราคิดว่า บ้านแม่แมะนี่แหล่ะ!!ใช่เลย….
จากนั้นเริ่มกิจกรรมวันแรกยามเช้าของเรากับการเก็บใบเมี่ยง ชิมชา ณ บ้านระเบียงจำปา นอกจากจะได้เก็บใบเมี่ยงสดๆแล้วที่นี่เค้าก็เตรียม “ยำใบเมี่ยง”สูตรพิเศษไว้ให้เราได้ชิมอีกด้วย โดยยำใบเมี่ยงของที่นี่จะมีส่วนผสมคือ ปลากระป๋อง ตามด้วยพริก หอมแดง น้ำมะนาวคั้นสดๆจากสวน..อร่อยเด็ดอย่าบอกใคร!!
แต่…สำหรับใครที่ชอบทานอาจจะต้องคอแข็งสักเล็กน้อย เพราะทานไปมากๆอาการจะคล้ายคนเมาได้ สังเกตอาการได้จากผู้ร่วมทริปของเราหลายคน สำหรับใครที่ติดใจจนอยากที่จะเก็บใบเมี่ยงกลับบ้าน ผู้ใหญ่บ้านกระซิบบอกกับเราว่า ถ้าใบเมี่ยงถูกเด็ดออกจากต้นแล้ว ต้องรีบนำไปทำอาหารทันที มิเช่นนั้นจะเสียรสชาติ ยิ่งเก็บจากภูเขาสูงลงมายังพื้นราบรสชาติของใบเมี่ยงจะเปลี่ยนไปทันที นี่ก็เป็นความรู้ให้เราได้ไม่น้อย แต่ผู้ใหญ่บ้านมาบอกเราเมื่อสายเกินไป เพราะเก็บใบเมี่ยงมาซะเต็มถุง..จะคืนก็คงไม่ทันซะแล้ว!!
ลาจากบ้านแม่แมะเราก็เดินทางต่อไปยัง “ChiangDao Story Camp” หรือบ้านสตอบอรี่ จากที่นี่เราสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างสวยงาม ดื่มดำกับบรรยากาศบ้านสตอบอรี่เสร็จด้วยเวลาที่มีจำกัด ก็จำใจต้องลาจาก
กิจกรรมต่อไปของเรานั่นก็คือเยี่ยมชมโฮมสเตย์บ้านหัวทุ่ง โฮมสเตย์ตัวอย่างดีเด่นของอำเภอเชียงดาว พร้อมกันนั้นเรายังมีโอกาสเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชุมชนบ้านหัวทุ่งอีกด้วย จากปากทางเดินเข้าไปไม่ไกลนัก เราก็พบกับน้ำตก “น้ำออกรู” เป็นน้ำที่ไหลผ่านถ้ำ ซึ่งมีความสวยงามและยังคงความเป็นธรรมชาติท่ามกลางชุมชนที่ล้อมรอบ ด้วยความใส่ใจดูแลรักษาจากคนในชุมชน ทำให้ป่าของชุมชนนี้ยังคงความอุดมสมบูรณ์ได้มากที่สุด
ในความเห็นส่วนตัวของเราเองคิดว่า การท่องเที่ยวเชิงนิเวศนี้นอกจากจะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่เราต้องผจญมาได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังได้ความรู้กลับไปเพื่อพัฒนาต่อยอดได้อีกด้วย จากนั้นกิจกรรมสุดท้ายของเราในวันนี้คือเรียนรู้วิถีชุมชนของชนเผ่าปกาเกอะญอ แห่งหมู่บ้านป่าตึงงาม ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่ามีวิวที่สวยงามที่สุด
หมู่บ้านป่าตึงงาม ในอดีตเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าลัวะมาก่อน ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยการค้นพบวัดร้างถึง 6 แห่งและยังมีป่าช้าของชนเผ่าลัวะตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณหมู่บ้าน ต่อมาในภายหลังชนเผ่าลัวะได้อพยพย้ายถิ่นฐานไปอาศัยยังที่อื่น ชนเผ่าปกาเกอะญอจึงได้เข้ามาตั้งรกรากแทน โดยการมาถึงยังหมู่บ้านป่าตึงงาม จุดแรกที่เราได้แวะนั่นก็คือ คริสตจักรบ้านออนใน ซึ่งเป็นคริสตจักรสร้างจากไม้ธรรมดาทั่วไป แต่จุดเด่นนั่นก็คือฉากหลังซึ่งมีภูเขาเรียงซ้อนกันถึง 2 ลูก ตั้งเด่นตัดกับท้องฟ้าสีคราม สวยเหมือนถูกมนต์สะกด..ยืนมองแบบไม่กลัวแดดกันเลยทีเดียว
จากนั้นเราก็ได้รับการต้อนรับจากคนในหมู่บ้าน ด้วยเครื่องดื่มสมุนไพรชูกำลัง การันตีด้วยการดื่มแล้วคึกคักแต่เราชิมแล้วรสชาติขมสักเล็กน้อย ก็เลยไม่ได้คึกคักกับใครเขา… รับเครื่องดื่มก็มานั่งชมการแสดงจากน้องๆในชุมชนเป็นการแสดงของชนเผ่า นั่นคือการแสดงดนตรี “เตหน่ากู” และการฟ้อนดาบ โดยการฟ้อนดาบเป็นการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นโดยต้องเข้าไปเรียนในป่าลึกเป็นเวลาหลายวัน และมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่สามารถเรียนการฟ้อนดาบนี้ได้
ชมการแสดงเสร็จสิ้น ก็ถึงเวลาเดินชมหมู่บ้าน จากการสังเกตชาวบ้านแทบจะทุกหลังจะเลี้ยงหมูดำ(คุโรบูตะ) หรือไม่นั้น..เราเองก็ไม่แน่ใจนัก!! แต่ที่มีความน่ารักนั่นก็คือ ทุกตัวจะมีปลอกคอพูกไว้กับใต้ถุนบ้าน แลดูคล้ายกับผูกน้องหมายังไงยังงั้นเลยนะ..ชาวบ้านที่นี่ให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี ยิ้มแย้มแจ่มใส นอกจากเราจะได้เดินชมหมู่บ้านแล้ว เรายังได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมกับคนในชุมชนนั่นก็คือ การสร้างและซ่อมแซมฝายต้นน้ำ ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นน้ำที่มีความสำคัญที่หล่อเลี้ยงคนในชุมชน ก่อนที่ต้นน้ำนี้จะไหลไปรวมกับแม่น้ำปิงที่บ้านไตรสภาวคาม ต.ปิงโค้ง ต่อไป
สำหรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของเราในวันนี้ ถือได้ว่านอกจากจะได้ความรู้แล้วยังเหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาสัมผัสกับวิถีชุมชนแบบนี้แล้ว มาเที่ยวกันค่ะ!!รับรองว่าคุณจะสนุกและได้อะไรหลายอย่างกลับไปแบบประทับใจมิรู้ลืม
ขอบคุณสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ที่ให้โอกาสเราได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์การการเดินทางท่องเที่ยวที่แสนประทับใจนี้
ติดต่อสอบถามข้อมูลที่พักและร้านอาหาร
- บ้านต้นไม้ หมู่บ้านแม่แมะ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยมี เราพิสูจน์ให้แล้วนะ สัญญาณ AIS มีจร้า!! ราคาที่พักรวมอาหาร 750 บาท เบอร์โทรติดต่อ.081-1115154
- บ้านระเบียงจำปา บ้านแม่แมะ(เก็บใบเมี่ยง ชิมชา) ราคาที่พัก 499 บาทรวมอาหารเช้า อาหารเย็น 150 บาท/คน เบอร์โทรติดต่อ คุณอ้อม 084-9482004
- ChiangDao Story Camp ราคาที่พัก 720 – 860 บาทไม่รวมอาหารเช้า อาหารเช้า 100 บาท/คน เบอร์โทรติดต่อ คุณต๋อย 081-8415692
- โฮมสเตย์บ้านหัวทุ่ง เบอร์โทรติดต่อ 081-9585601,082-2656074
ภาพและบทความ ปาณิสรา นฤประชา