เยือนแม่สอดข้ามเเดน ไหว้สาพระธาตุเมืองเมียวดี
เที่ยวไหว้พระประเทศเมียนมาผ่านชายเเดนไทยที่อำเภอเเม่สอด จังหวัดตาก
เมื่อได้รับคำเชิญมาเที่ยวแม่สอดทีมงาน Events Weekly และ “แอ่วดี” คว้ากล้องกระโดดขึ้นรถตู้ตามขบวนของ ททท.ตากมาทั้นที หลังที่ทีมเราแวะเวียนชมเที่ยวในฝั่งไทย ขบวนรถตู้ นำพวกเราข้ามสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ผ่าเข้าสู่เมืองเมียวดี เมืองชายแดนแม่สอด สู่แดนพุทธภูมิ มุ่งตรงสู่ประเทศเมียนมา ซึ่งการเดินทาง ต้องสับเปลี่ยนการขับรถจากซ้ายเป็นเลนขวา เมื่อผ่านด่านทางประเทศเมียนมา แล้วเราจะพบความวุ่นวายนิด ปนสนุกสนานเกี่ยวกับการจราจรของประเทศเพื่อนบ้าน เอาเป็นว่าขับรถระวังหน่อยแล้วกันเพราะมอเตอร์ไซค์แนวแว้นเยอะมาก อาจถูกฉี่ยวชนได้
ข้างทางจะเต็มไปด้วยของขายมากมาย ที่สะดุดตาก็พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าจำพวก เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ทีวี ที่เล่นขายข้างทางต่างจากบ้านเราที่ขายในห้างเป็นส่วนใหญ่ เราเดินทางต่อไปเรื่อยๆเพื่อไปวัดพระเขี้ยวแก้ว Ma Har Ka Na Ka Swal (มหากานากาซอตาว)
เมื่อเราเขามาถึงวัดพระเขี้ยวแก้ว เราพบเจดีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนม่อนดอยแต่ไม่สูงนัก พร้อมทางเดินขึ้นที่เป็นบันไดยาวเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ลืมบอกไปอย่างครับที่เมียนมาร์ เขาไม่ใส่ถุงเท้าและรองเท้าเข้าวัดนะครับ ผมเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งถอดรองเท้าแล้วลงรถ เดินเข้าวัดเลย จึงเข้าไปสอบถาม เขาเล่าว่าที่ไม่ใส่รองเท้าเข้าวัด ทางนี้ถือมาก แต่ถอดไว้ในรถปลอดภัยกว่า
วัดพระเขี้ยวแก้ว Ma Har Ka Na Ka Swal เป็นวัดที่มีเจดีย์ทองขนาดใหญ่เป็นเจดีย์ชเวดากอง จำลองครับ ขึ้นไปด้านบนสามารถมองเห็นเมืองเมียวดีได้ทั้งเมือง แต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงบูรณะคาดว่าไม่นานคงเสร็จ
จากนั้นเราเดินทางต่อไปวัดแห่งที่สองซึ่งเขาไปในทางซอยแคบนิดหนึ่ง บ้านของชาวเมียนมา ก็คล้ายๆกับบ้านทางเหนือของประเทศเรา ที่นี่ผู้ชาย นุ่งผ้าโสร่งที่เป็นเอกลัษณ์ของชาวเมียนมา เคี้ยวหมากซึ่งจะเห็นซุ้มหมากเป็นจุดๆไป แต่ที่ฮิตที่สุดคือการทาแป้งทานาคาสีเหลือง ทั้งหนุ่มเล็กสาวน้อย รุ่นใหญ่ ทากันถ้วนหน้า ขับไปรถไปมาระวังชนร้านขายน้ำมันด้วยนะครับ ที่นี่เขาใส่ขวดขายครับ
เราเดินทางมาถึงวัดแห่งที่สอง ที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งตระการตา ที่นี่คือ “วัดมอญพระยืน” วัดนี้เป็นวัดที่น่าสนใจอีกวัดหนึ่งครับนอกจากจะมีพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ พระพักตร์พระพุทธรูปที่ดูเมตตาแล้วในวิหารไม้ยังเป็นที่ประดิษฐ์สถานพระธาตุจากศรีลังกา
เมื่อเราเข้าไปนมัสการจะมีพระสงฆ์ท่านแนะนำให้เราดู พระธาตุอยู่ในผอบบรรจุพระธาตุ ที่เป็นแก้วมองโดยตาเปล่าไม่เห็น ทางวัดจึงมีแว่นขยาย ให้เราส่องเห็นพระธาตุอย่างชัดเจน ด้านหลังพระธาตมีพระพุทธรูปที่เชื่อว่าใครอธิฐานขอพรมักจะสำเร็จ
หลังจากนั้น เราก็เดินทางมาวัดที่สาม วัดจระเข้ (วัดมิเจาโก) มีเอกลักษณ์ตรงที่มีรูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่ทาสีเขียวสดใสทั้งตัว จระเข้มีขนาดใหญ่มาก ความยาวของลำตัวตั้งแต่หัวจดหางยาว 25 เมตร กลางตัวจระเข้สร้างเป็นหอไตรกลางน้ำมีทางเข้าอยู่ด้านหลัง ห้ามสตรีเข้าจุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งของวัดคือการขอพรจากพระบัวเข็มหรือพระอุปคุต ที่อยู่ด้านหน้ารูปปั้นจรเข้ในสระเดียวกัน
ออกจากวัดจรเข้เรามุ่งตรงไปวีดสุดท้ายของวันนี้ในฝั่งเมียนมาคือวัด เจดีย์ทอง (วัดส่วยมินหวุ่น) ชื่อจริงเต็มๆ ของวัดนี้คือ “เจดีย์ชเวเมียนโหว่นเซตี้” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดเมียวดี มีอายุเก่าแก่
เมื่อมาถึงทางเข้าจะมีที่ฝากรองเท้าไว้ ค่าฝาก 3 บาท และมีจุดจำหน่ายธูปเทียนและตุงเพื่อนำไปสักการะพระธาตุและบรรดานัดหรือเทพทันใจ ทั้งหลายที่อยู่รอบตัวองค์พระธาตุ
เจดีย์ทองที่นี่เป็นศิลปะมอญ-พม่า สร้างบนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้ยี่สิบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 เมตร มีความสูงจากฐานถึงยอดฉัตรประมาณ 123 ฟุต 3 นิ้ว ฐานชั้นแรกขององค์เจดีย์ประกอบด้วย เจดีย์รายขนาดเล็ก 28 องค์ ตลอดองค์ระฆังจนถึงชั้นปลียอดประดับด้วยแผ่นทองคำ กลางองค์ระฆังประดับด้วยเส้นเข็มขัดรัดองค์ระฆัง ถัดลงมาจากเข็มขัดทำเป็นรูปอสูร ปรากฏเฉพาะหัวและมือถือช่อกระหนก แบกเข็มขัดแวดล้อมอยู่ทั้งสี่ทิศ คอระฆังประดับด้วยลายกรุยเชิงโดยรอบรับปล้องไฉน และชุดบัวคว่ำบัวหงายที่รับชั้นปลียอด ซึ่งประดับไว้ด้วยฉัตรที่มียอดเป็นทองคำประดับด้วยอัญมณี
เมื่อไหว้พระเสร็จแล้ว ก็เหลือเวลานิดหน่อย ก็แวะทัศนาชมตลาดพม่าสักหน่อย ตลาดที่นี่ส่วนมากจะเหมือนตลาดบ้านเราครับ สินค้าส่วนมากจะมาจากเมืองไทย แต่ของสดเช่นปลา กุ้ง นี่ของมาจากพม่าแท้ๆ ที่ตลาดสามารถใช้เงินไทยซื้อได้เลยครับหากมีเงินไทยต้องการแลกเงินจ๊าค เงินสกุลพม่าก็สามารถแลกข้างตลาดนี่แหละ เล่นกันง่ายๆเลยมีเครื่องนับพร้อมสินค้าที่นี่มีทั้งถูกและแพงแล้วแต่คนที่ชื่นชอบสินค้าแบบไหน ใกล้ค่ำแล้วต้องรีบเดินทางกลับครับเนื่องจากเราถือหนังสือเดินทางแบบชั่วคราว ต้องออกก่อนหกโมงเย็น สำหรับทริปวันนี้ต้องขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานตาก ,จังหวัดตากโดยการนำจากผู้ว่าราชการจังหวัด และท่านนายอำเภอแม่สอด สำหรับการเดินทางวันนี้ก็สิ้นสุดเท่านี้ก่อนนะครับคราวหน้าไปไหนจะมาเขียนเล่าให้อ่านอีกครับ
สนใจสอบถามการท่องเที่ยวทั้งฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านติดต่อ ททท.สำนักงานตาก โทร 055-143413
ใหญ่ สรวิชญ์
ภาพโดย EventsWeekly News