ถ้ำเมืองออน เที่ยวคนเดียวก็เฟี้ยวได้!!!

เคยคิดเหมือนกันนะ..ว่าผู้หญิงตัวคนเดียว เกิดอารมณ์อยากเที่ยวป่าเขา เที่ยวถ้ำ มันจะน่ากลัวมั้ยน้า!! แต่ด้วยใจเกินร้อย ถึงแม้มันจะกลัวหน่อยๆ แต่ด้วยความอยากไป  จะให้รอใครก็คงจะอีกนานกว่าจะได้ไป ในเมื่อตั้งใจก็ลุยเลย มองฟ้ามองฝน ก็แลดูจะเป็นใจ…สตาร์ทรถออกเลยละกันงั้น!!

IMG_5356a_resize

IMG_5352a_resize

IMG_5355a_resize

IMG_5364a_resize

IMG_5371a_resize

ถ้ำเมืองออน ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน ขับรถมาทางถนนสันกำแพงตัดใหม่ มาทางน้ำพุร้อนสันกำแพง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 17 กิโล ขับรถแบบชิวๆ ขับไปร้องเพลงไป จอดถ่ายภาพไป…ไม่นานก็ถึง  อ๊ะๆ!!แต่อย่าขับเร็วหล่ะ เพราะจะมีป้ายเล็กๆชี้เป้าบอกทาง ไปยังถ้ำเมืองออน เราเองก็เกือบจะขับเลย เบรคแทบจะหัวทิ่มเหมือนกัน(หุหุ)องค์ใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางท้องทุ่ง ขับขึ้นเนินไปไม่ไกล เราก็จะพบกับทางขึ้นถ้ำเมืองออน

IMG_5378a_resize

IMG_5382a_resize

ลานจอดรถกว้างขวางค่ะ…จอดได้เลย สำหรับใครที่นำมอเตอร์ไซต์มาก็มีที่จอดรถให้ เสียค่าบำรุงสถานที่ 10 บาท สำหรับรถยนต์ฟรีค่ะ!! สำหรับใครที่คิดว่าการเดินขึ้นเขาจะเหนื่อย แนะนำให้ซื้อน้ำดื่มสักขวด จากด้านล่างนี้ จะช่วยได้มากๆ โดยค่าเข้าชมถ้ำ คนละ 20 บาท ลุงและป้าที่ดูแลสถานที่ ใจดีมากๆ แอบถามเราเบาๆ ว่า กลัวความสูงหรือเปล่า เมื่อวันก่อนที่หนูจะมา ก็มีผู้หญิงมาคนเดียวแบบนี้แหล่ะ!! แต่ไปได้ครึ่งทางแล้วเกิดกลัว จึงเดินลงมา…ขาลุยแบบเรามีหรือจะกลัว  ตอบคุณลุงคุณป้าแบบเสียงดังฟังชัดว่า…”ไม่กลัวค่า หนูจะเดินสำรวจทุกซอกทุกมุม”

IMG_5385a_resize

ขอบอกก่อนว่า การเตรียมตัวเดินของเราในครั้งนี้ มันช่างดูพะรุงพะรังซะเหลือเกิน..แค่กล้องก็หนักเป็นกิโล ไหนจะกล้องโกโปร มือถือ น้ำ ดอกไม้สำหรับไหว้พระ..แต่ก็นะ ยัดใส่เป้ แบกมันไปหมดเนี้ยแหล่ะ

เริ่มเดินอย่างมีความสุข….สุข….เดินฮัมเพลงในคอเบาๆ ได้เพียงแป๊บเดียวเท่านั้นน่ะ เหงื่อมันก็พร้อมใจกันหลั่งไหล บันไดมีอยู่ 187 ขั้น เดินมาได้ขั้นที่ 50 มันก็เหมือนจะขาอ่อนแรงหน่อยๆ แต่ก็นะ(สู้ตายค่า!!)

IMG_5669a_resize

19821208_1382447641832575_252452674_oa_resize

ลากขามาจนถึงยังปากถ้ำ ก่อนถึงปากถ้ำด้านซ้ายมือจะมีพระให้เรากราบไหว้ขอพรก่อนเดินทางลงถ้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคลและให้แคล้วคลาดปลอดภัย ติดกับปากถ้ำจะมีสถูปเจดีย์ครูบาศรีวิชัย ในอดีตถ้ำแห่งนี้มีชื่อว่า “ถ้ำดอยศิลา” ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาได้เดินทางธุดงค์มาพบถ้ำดอยศิลาแห่งนี้  จึงได้ชักชวนชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธาสร้างถนน และบันไดนาคขึ้นสู่ปากถ้ำและได้สร้างพระพุทธรูปทันใจเสร็จสิ้นภายใน 1 วัน ซึ่งพระพุทธรูปทันใจ ประดิษฐานอยู่บนยอดดอย กล่าวกันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ต่อจากนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อ ถ้ำดอยศิลา เป็น ถ้ำเมืองออน จวบจนถึงปัจจุบัน

19829943_1382447938499212_238182529_oa_resize

ก่อนลงถ้ำจะมีผู้ดูแลถ้ำขอตรวจบัตร และที่นี่ก็มีเช่าไฟฉายด้วยนะ สนนราคา 20 บาท/อัน และถ้าเราอยากที่จะทราบประวัติความเป็นมาของถ้ำ ที่นี่ก็มีไกด์ท้องถิ่นให้ค่ะ แต่ราคาก็แล้วแต่เราจะให้(ตามความเหมาะสม) ชักชวนพี่ไกด์เรียบร้อย เราก็เริ่มเดินกัน…อ๊ะๆ!! สำหรับคนที่กลัวความสูง ขามันก็อาจจะอ่อนแรงตั้งแต่ปากถ้ำ เพราะมองลงไป มันช่างทิ้งดิ่ง ซะเหลือเกิน

IMG_5398a_resize

IMG_5406a_resize

IMG_5407a_resize

เดินลงตาแทบจะไม่มองทางเดิน เนื่องมาจากตื่นเต้นเกิน มัวแต่มองวิวของถ้ำ จนพี่ไกด์แอบปรามเบาๆ ข้างในมีสวยกว่านี้อีก ก็คนมันไม่เคยมา…ไรงี้ เดินเข้ามาเราจะเห็นกับถ้ำฤาษี กำลังจะปรี่เข้าไปไหว้ พี่ไกด์ก็บอกกับเราว่า เดี๋ยวค่อยมาไหว้ตอนขากลับ…ตอนนี้ต้องเดินลงไปชมด้านล่างก่อน

เอิ่ม!!ค่ะๆ…….ว่าแล้วพี่ไกด์ก็เดินลงบันไดลงไปยังด้านล่าง เราก็ยังไม่ทันได้มองนะ พอไปยืนขอบทางลงเท่านั้น ความกลัวมันถาโถมมาจากไหนไม่รู้…..ทำไม!!มันชันขนาดเน้ แทบจะ 90 องศา ขามันก็จะอ่อนมาหน่อยๆ…นั่งค่ะ!! แล้วค่อยๆก้าวขาไปแบบเบาๆ กลัวก็กลัว อยากถ่ายรูปก็อยาก ทำไมชีวิตช้าน!!ช่างย้อนแยงเยี่ยงนี้

IMG_5411a_resize

IMG_5413a_resize

IMG_5420a_resize

IMG_5424a_resize

มองบันไดที่เลี้ยวไปเลี้ยวมาพาขาอ่อน พี่ไกด์ก็หยุดความกลัวของเราด้วย การอธิบาย หินไดโนเสาร์ ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์จริงๆ หรือว่าแค่เหมือน(กันนะ)…ลงมาถึงยังด้านล่าง ก่อนที่เท้าจะแตะพื้น เราต้องไหว้ขออนุญาตครูบาศรีวิชัยกับพญานาคที่ปกปักรักษาถ้ำแห่งนี้

IMG_5430a_resize

IMG_5437a_resize

IMG_5443a_resize

IMG_5466a_resize

ภายในโถงถ้ำด้านล่างนี้ จะมีพระกรุณาไชยาสน์(พระนอน) และจะมีแท่นนั่งที่ในอดีตครูบาศรีวิชัย เคยมานั่งวิปัสสนากรรมฐาน ภายในถ้ำนี้ ถัดไปเราจะเห็นหัวสิงโต ซึ่งจะหันหน้าเข้าหาพระธาตุ คอยเฝ้าดูแลพระธาตุอยู่ ซึ่งนั่นก็คือพระธาตุนมผา นับเป็นพระธาตุที่สวยงาม เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ โดยข้างในพระธาตุนมผา บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า

ตามตำนานเล่าขานกันมาว่า…พระพุทธเจ้าได้ออกเดินธุดงค์เพื่อเผยแพร่ศาสนา แล้วได้เดินทางผ่านมายังถ้ำดอยศิลาแห่งนี้ ได้มีพญานาคที่สิงสถิตย์อยู่ภายในถ้ำได้เห็นพระพุทธเจ้าได้พำนักอยู่บนดอย จึงได้แปลงกายเป็นมนุษย์นำผลไม้ และ น้ำผึ้งป่ามาถวายแด่พระพุทธเจ้า เมื่อท่านรับและถวายพรแด่พญานาค จึงมีความยินดีได้ขอเกศาธาตุของพระพุทธเจ้ามาใส่ไว้ในพระธาตุนมผา เพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชาภายในถ้ำ

IMG_5436a_resize

IMG_5453a_resize

IMG_5503a_resize

ถัดจากพระธาตุนมผา ก็จะเป็น พระพุทธเจ้านั่งบัว กราบไหว้ขอพรเสร็จ เราก็เดินไปยังโถงถ้ำซึ่งเป็นที่สิงสถิตย์ของพญานาคที่คุ้มครองถ้ำแห่งนี้  แต่ก่อนที่จะเดิน เราเห็นโถงทางเดินจากไกลๆ เราก็ถึงกับอุทานบอกกับพี่ไกด์..ว่า “สวยงามมีน้ำด้วย แล้วเราจะเดินเข้าไปได้หรือ”  นางเงียบ!!แล้วกระซิบบอกกับเราเบาๆว่า เราเห็นเป็นน้ำหรือ!! เราก็ตอบประสาคนช่างคุยว่า “ ใช่” เท่านั้นแหล่ะ…นางเงียบ(อีกแล้ว)แล้วนางก็บอกกับเราว่า คนที่มีความเชื่อและศรัทธาเท่านั้นแหล่ะ ถึงจะเห็นอะไรที่ “แปลกๆ” เอิ่ม!! ไม่รู้จะพูดอะไร…เงียบสิคร้า(รออัลไล)

IMG_5473a_resize

IMG_5491a_resize

IMG_5479a_resize

จากนั้นนางก็ชี้ชวนพาเราไปดู “ไม้สักล้านปี” มันคือต้นไม้จริงๆ ที่กลายเป็นหิน ดูไปก็ตื่นเต้นไปนะ เดินเข้าไปจนสุดถ้ำ เราจะเห็น “หัวพญานาค”  ถัดจากหัวพญานาค ด้านในซอกของถ้ำ จะเป็นลำตัวของพญานาค โดยถ้าเราสังเกตดีๆเราจะเห็นคล้ายกับว่าเป็นสันหลังของพญานาค ซึ่งส่วนนี้ เค้าจะมีป้ายเตือน ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไปค่ะ..กราบขอพระเรียบร้อย เราก็เดินออกมา ระหว่างเดินก็ชมนั่นนี่โน่น…ถ้ำนี้เป็นถ้ำหินปูนที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร ถึงจะเป็นถ้ำปิดเข้าออกได้ทางเดียว แต่อากาศข้างในก็ไม่อึดอัด อากาศถ่ายเทสะดวก ด้วยความที่เป็นถ้ำอากาศจะค่อนข้างชื้นและเย็นค่ะ แต่ถึงจะอากาศเย็นแต่เสื้อเราเปียกค่ะ…เนื่องมาจากเดินจนเหนื่อย กลับไปบ้านคงน้ำหนักลดลงมั่งหล่ะ

IMG_5531a_resize

IMG_5552a_resize

IMG_5560a_resize

การมาเดินถ้ำควรจะแต่งตัวด้วยเสื้อที่ใส่สบายไม่รัดจนเกินไป กางเกงควรเป็นกางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ ให้เกียรติสถานที่และเพื่อการเดินที่สบายค่ะ

ขาลงว่าน่าหวาดเสียวแล้ว ขากลับยิ่งน่ากลัวไปอี้ก..เคล็ดลับ!! เดินห้ามเหลียวมองดูด้านหลัง ไม่งั้นไม่เป็นลมก็ขาอ่อนกะทันหันแน่นอน  ก่อนกลับเราก็กราบขอพรปู่ฤาษีกันค่ะ จากนั้นก็เดินออกมายังด้านนอก สูดอากาศบริสุทธิ์ นั่งพัก ดื่มน้ำเพิ่มพลังได้นะ….

19840384_1382447581832581_264943152_oa_resize

IMG_5580a_resize

จากนั้นเริ่มเดินทางต่อ เพื่อไปชมวิวและกราบพระทันใจยังด้านบน  ไม่ไกลแค่ 300 เมตร กับบันได 706 ขั้น(ชิวๆไปนะ) แต่ลืมไปหรือเปล่าค่ะ ว่าเป็น 300 เมตร(ดอย)  ขาลากกว่าเดิมอีกค่ะ!! เดินไปก็แอบบ่นเล็กๆ สร้างกำลังใจให้ตัวเอง นั่งบ้าง เดินบ้าง พอเดินถึงยังด้านบน ดีใจประหนึ่งว่าเป็น “ผู้พิชิตยอดเขาเอเวอร์เรส” หายใจยังไม่ทันจะโล่ง ก็รู้สึกเหมือนถูกสายตาหลายคู่จับจ้อง…

IMG_5662a_resize

นี่เราไม่ได้อยู่คนเดียวหรือ!! ก็ไหนพี่ไกด์บอกว่า มีแต่เราที่เดินขึ้นมา(เอาหล่ะสิ!!) กวาดตามองหาที่มาของเสียง ก็ต้องพบกับ น้องลิงจั๊กๆ(รักจริงๆ) หืม!!!! ทำไมไม่มีใครบอกเราว่ามีลิง…เชียงใหม่ก็มีลิงนะ  แต่ไม่ต้องกลัวไปค่ะ น้องลิงที่นี่นิสัยดี ไม่ค่อยดุร้าย

IMG_5631a_resize

IMG_5611a_resize

IMG_5623a_resize

ขออนุญาตเจ้าถิ่นผ่านทาง เราก็เดินไปยังด้านบนสุดปลายยอดดอย จะมีองค์พระทันใจ ให้กราบไหว้ เล่าขานกันว่า ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ไหว้เสร็จก็ชมวิวแบบพาโนรามากันไป…..สวยงาม ประทับใจ แต่ยังไม่หมดเท่านี้น่ะ!!

IMG_5649a_resize

IMG_5645a_resize

IMG_5642a_resize

เดินมาอีกด้าน เราจะเจอกับเจดีย์ เดินลงมาอีกนิด เราจะพบกับวิวภูเขาที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา สวยงามประทับใจ ความเหนื่อยที่มีแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง ที่สำคัญบนยอดดอยนี้ มีสัญญาณให้อัพภาพรัวๆด้วยน่ะ

IMG_5625a_resize

IMG_5635a_resize

สรุปค่าใช้จ่ายการเดินทางครั้งนี้

  • เติมน้ำมันรถยนต์ 200 บาท
  • ค่าเข้าชมถ้ำ 20 บาท
  • ค่าดอกไม้ไหว้พระ 10 บาท
  • ค่าสินน้ำใจพี่ไกด์ 100 บาท
  • ค่าน้ำดื่ม 10 บาท

รวมยอด 340 บาท คุ้มเกินคุ้ม เที่ยวชิว วิวสวย แถมได้ความผอมกลับบ้านด้วยนะ

รีวิว/ภาพ ปาณิสรา นฤประชา

 

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น