ไปไหน..”ปาย” กัน(มั้ย!!)

แอ่วดีReview ได้มีโอกาสเข้าร่วมทริปโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองสุขภาพของ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนที่ 1 โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กับกิจกรรมทดลองใช้บริการและการท่องเที่ยวน้ำแร่ล้านนา ณ น้ำพุร้อนท่าปาย ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

สำหรับทริป 2 วัน 1 คืนนี้ เรียกได้ว่าสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตแบบมันส์ๆ ลุยๆ เที่ยวท้าฝนกันเลยทีเดียว ใครว่าฤดูฝนนี้จะเที่ยวไม่สนุก ขอบอกเลยว่ามาที่ “ปาย” นี้จะไม่จะผิดหวังอย่างแน่นอน

ด้วยความที่เป็น “ปาย” เราอาจจะคิดว่าเราได้เห็นทุกซอกทุกมุมของปายแล้ว แต่ในความเป็นจริงนั่นไม่ใช่เลย ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะแยะมากมาย ที่น่าสนใจ “ท่องเที่ยววิถีชุมชน” นี่แหล่ะ!!… ที่เราต้องการ ไปใช้ชีวิตแบบวิถีชาวบ้านดูบ้าง มันก็สนุกไม่น้อยเลยนะ

เริ่มต้นการเดินทางผ่านหุบเขาและโค้งที่นับกันจนไม่หวาดไม่ไหว ก็มาถึงยังเมืองปาย เมืองปายเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เมืองหนึ่งของภาคเหนือเลยก็ว่าได้นะ ด้วยความเงียบสงบ ผู้คนเป็นมิตร และมีวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ที่หลากหลาย จึงทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่น่าค้นหาและน่ามาเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่ง

สถานที่แรก ที่เราได้แวะเยี่ยมชมนั่นก็คือ “วัดน้ำฮู” วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองปาย และที่นี่เองก็ยังเป็นที่ตั้งประดิษฐานของเจ้าพ่ออุ่นเมือง ด้วยความอัศจรรย์ พระเศียรด้านในจะมีลักษณะกลวง ส่วนบนเปิดปิดได้และมีน้ำขังอยู่ตลอดปี เป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม ที่มีอายุประมาณ 500 ปี

ในอดีตเมื่อปี พ.ศ. 2515 ได้มีพระธุดงค์ได้เข้ามากราบนมัสการยังพระพุทธรูปเจ้าพ่ออุ่นเมือง ก็ได้มีความสงสัยว่าด้านในของพระจะมีน้ำ จึงได้ทำการเปิดดู ก็ได้พบว่ามีน้ำจริง ต่อมาเมื่อชาวบ้านได้ทราบเรื่องก็พากันมาขอน้ำไปสักการะ เมื่อทำการตักน้ำ ในเศียรพระจนหมดก็จะมีไหลออกมาอีก ในลักษณะแบบซึมออกมาตลอดเวลา

นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังมีพระเกษาของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังวิหาร เป็น “เจดีย์อัฐิพระสุพรรณกัลยา” แต่ก็ไม่ได้มีการบันทึกประวัติเรื่องราวการสร้างไว้อย่างชัดเจน แต่เชื่อกันว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา ซึ่งได้เสด็จไปเป็นตัวประกันที่พม่าแทนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และต่อมาก็ได้ถูกปลงพระชนม์ที่ประเทศพม่านั่นเอง

และเนื่องจากเราๆทำเวลาในการเดินทางได้ดี ก็เลยมีเวลาแว่บมาเที่ยวยัง “หมู่บ้านสันติชล” หมู่บ้านจีนยูนนาน ถึงใครๆจะพูดว่ามากันบ่อยแล้วก็ตาม แต่มากี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลยนะ เพราะที่นี่เค้าได้มีการปรับปรุง เพิ่มเติม สถานที่ให้น่าเที่ยวและน่าสนใจตลอดเวลา

มีมุมถ่ายภาพเก๋ๆเยอะแยะมากมาย ทั้งบ้านดิน ที่อากาศเย็นสบายภายในด้านในและยังมีโซนกิจกรรมสนุกๆให้เราได้ร่วมเล่นอีกด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งชุดจีนสวยๆ ย้อนเวลาไปเป็นนางเอกหนังจีนกำลังภายในสักเรื่อง หรือว่าจะนั่งชิงช้าไม้ของชนเผ่า ที่นั่งได้ครั้งละ 4 คน อัตราค่าบริการก็คนละ 25 บาท ถือได้ว่าเรียกเสียงกรี้ดกร้าดได้ไม่เบาเลยทีเดียว

แต่หากยังไม่จุใจ ก็ยังมีการนั่งม้าชมรอบๆบริเวณ หากคอแห้งจะเลือกนั่งพักจิบชาหลากหลายสายพันธุ์ที่นี่เค้าก็มีหมด มาที่นี่อารมณ์ก็จะเหมือนคล้ายว่ามาเที่ยวยังเมืองจีนยังไงยังงั้น

จากบ้านจีนยูนนาน เราก็เดินทางต่อไปกันยัง “สวนอคิราห์” ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โดยการมาเยือนที่นี่ก็ได้ให้ความรู้แก่เราในหลายๆอย่าง ทั้งการได้รู้จักพืชผักสมุนไพร การปลูกผักเกษตรอินทรีย์ กรรมวิธีการทำเครื่องดื่มน้ำมะนาวออแกนิค การแช่เท้า นวดตัว แช่ออนเซ็นในแบบบ้านๆ แต่ก็มีความสุขไม่น้อยเลยนะ

ทำกิจกรรมเบาๆชิลๆไปแล้ว ก็มาถึงยังกิจกรรมแอดเวนเจอร์กันดูบ้าง นั่นก็คือ “การล่องแพชมความงามแม่น้ำปาย” เริ่มต้นจุดสตาร์ทกันที่สะพานท่าปาย

การล่องแพในความคิดของคนที่ยังไม่เคยลอง อาจจะคิดว่าน่ากลัว อันตราย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เปล่าเลย..เพราะในช่วงที่เราล่องแพกันนั้น เป็นช่วงที่น้ำไม่เยอะเท่าไหร่นัก เราๆก็เลยไม่ต้องใส่เสื้อชูชีพ ไม่ใช่ว่าจะว่ายน้ำเก่งอะไรกันหรอก(ฮ่าๆ)

การล่องแพ สนนราคาคนละประมาณ 300 บาทแพหนึ่งก็นั่งได้ประมาณ 4 คน มาเที่ยวปายแล้วไม่ควรพลาดเลยค่ะที่ต้องมากัน เพราะทั้งสนุก ตื่นเต้น เรียกเสียงหัวเราะ กรี้ดกร้าด ได้แบบคอแหบคอแห้งกันเลยเชียวแหล่ะ

จบจากการนั่งแพ ก่อนที่ตะวันจะลาลับ เราก็ได้มีโอกาสแวะยัง “กองแลน” มานั่งชมพระอาทิตย์ตกวิวสวยๆกันที่นี่ แต่การเดินชมแต่ละจุดควรที่จะระมัดระวังกันด้วยนะคะ เนื่องจากทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบและสูงชันพอสมควรค่ะ

จบทุกกิจกรรมภายใน 1 วันที่มีทั้ง สนุก ตื่นเต้น ได้ความรู้ และผ่อนคลาย ก็ได้เวลาดินเนอร์กัน ณ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ซึ่งครั้งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของเมืองปายเลยเชียวนะ ที่ได้มีการจัดดินเนอร์ขันโตกบนสะพาน ชมการแสดงอันสวยงาม จบค่ำคืนอันประทับใจนี้ เรียกได้ว่าจะต้องมีการกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งอย่างแน่นอน

นอนหลับแบบฝันดี..ตื่นเช้ามารับอากาศบริสุทธิ์ที่เย็นสบาย พร้อมกับตักบาตรทำบุญในยามเช้าบนสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ที่ได้ให้ความรู้สึกที่ประทับใจอย่างไม่ลืมเลือน

ก่อนเดินทางกลับแวะกราบพระขอพร พร้อมกับชมวิวเมืองปาย ณ วัดดอยมงคลชัย

สำหรับทริปดีๆ ณ เมืองปายแห่งนี้นั้น หากสนใจอยากร่วมทริปแบบแอ่วดีReview ภายในวันที่ 28 มิถุนายน – 7 กรกฎาคม 2562 นี้ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ ก็ได้มีการจัดงาน LANNA EXPO 2019 ขึ้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถไปชมตัวอย่างของหมู่บ้านและสอบถามทริปสถานที่เหล่านี้กันได้เลยค่ะ

ขอขอบคุณ: สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับทริปดีๆในครั้งนี้ค่ะ

ภาพ/รีวิว ปาณิสรา นฤประชา

 

 

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น