เที่ยว 3 ด่านเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ตอนที่ 1 “แอ่วเวียงแหง ชมด่านหลักแต่ง”
เป็นอีกครั้งหนึ่งของเราที่ได้มีโอกาสมาเยือนยังเวียงแหง เมืองเล็กๆแต่ทรงคุณค่าและเต็มไปด้วยกลิ่นอายเรื่องราวจากประวัติศาสตร์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช การเดินทางของเราในครั้งนี้อาจจะไม่ได้ตามรอยการเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเหมือนเช่นครั้งก่อน แต่เป็นการไปเยี่ยมชมจุดผ่อนปรนด่านทั้งสามแห่ง อาทิ ด่านกิ่วผาวอก ด่านหลักแต่ง ด่านสันต้นดู่ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้เราหวังว่า ด่านเหล่านี้จะกลายเป็นจุดผ่านที่สำคัญในการค้าขายและพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป
เริ่มต้นการเดินทางที่ จ.เชียงใหม่ เราเดินทางกันโดยรถตู้ การเดินทางจากเชียงใหม่ ไปเวียงแหง ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร แต่เนื่องจากถนนมีความคดเคี้ยวเนื่องด้วยเป็นดอยสลับกับที่ราบ จึงทำให้การเดินทางของเราใช้เวลาไปทั้งหมดเกือบ 3 ชม. แต่การเดินทางก็ไม่ได้ทำให้ความตื่นเต้นของเราลดน้อยลงแต่อย่างใด เนื่องด้วยทิวทัศน์สองข้างทางสวยงามเป็นอย่างมาก มีภูเขาเรียงสลับซับซ้อนทอดตัวเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตาและยังมีไอหมอกจางๆ เพราะขณะที่เดินทางมีฝนโปรยลงมา จึงทำให้ที่นี่แลดูมีมนต์ขลังยิ่งนัก
สถานที่แรกที่เราไปเยือนยังที่นี่ นั่นก็คือ วัดพระธาตุแสนไห หนึ่งในวัดเก่าแก่ที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวเวียงแหง ซึ่งในอดีตสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยมาพักทัพบริเวณวัดแห่งนี้ อีกทั้งยังช่วยชาวบ้านในการบูรณะวัดแห่งนี้อีกด้วย(ตำนานเรื่องเล่า ติดตามอ่านได้ใน “เวียงแหงเมืองแห่งแดนลับแล https://goo.gl/fwUgbk )
จากนั้นเราได้แวะรับประทานอาหาร ขาหมู และ “สุกี้ยูนนาน” ซึ่งในภาษาท้องถิ่นเรียกกันว่า “หยูหนานโห่วโกว” เป็นหนึ่งในเมนูที่ชาวจีนยูนนานนิยมทานกันในเทศกาลสำคัญๆ เนื่องจากกรรมวิธีการทำค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน โดยมีส่วนผสมอาทิเช่น ไก่ดำ หมูสามชั้น หมูทอด ซี่โครงหมู เผือก ไข่ม้วนยูนนาน วางเรียงซ้อนกันมากถึง 8 ชั้น ใน 1 หม้อ สามารถรับประทานได้ 6-8 คน ทานคู่กับผักสด(ผักสลัดและยอดอ่อนถั่วลันเตา) รสชาติน้ำสุกี้จะกลมกล่อมและได้ความหวานมันมาจากเผือกจิ้มกับน้ำจิ้มสุกี้สูตรเด็ด…อร่อยอย่าบอกใคร!! และอีกหนึ่งเมนูนั่นก็คือขาหมูจะไม่ทานคู่กับข้าวสวยแต่จะทานคู่กับหมั่นโถวแทน สำหรับใครที่มาเยือนยังเวียงแหงแล้วอยากแวะชิม ต้องโทรสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น แนะนำที่ “ร้านครัวเปียงหลวง” สุกี้ยูนนานราคาหม้อละ 1,200 – 1,500 บาท
อิ่มเอมเป็นที่เรียบร้อยเราก็เดินชม “วัดเปียงหลวง” ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง ซึ่งอยู่ติดกันกับร้านครัวเปียงหลวง “วัดเปียงหลวง” วัดเก่าแก่ที่โบสถ์ มีลักษณะคล้ายบ้านไม้ยกสูง เป็นศิลปะของชาวไทใหญ่ โดยมีหลังคาเรียงกันเป็นชั้นๆลดหลั่นกันขึ้นไป ในทุกๆปี ณ วัดแห่งนี้จะมีงานพิธีปอยส่างลอง ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดยคนที่เข้าร่วมในพิธีต้องสวมชุดไทใหญ่หรือชุดชนเผ่าเท่านั้น
สถานที่ต่อไปที่เราได้ไปเยือน นั่นก็คือ “วัดฟ้าเวียงอินทร์” ซึ่งในครั้งนี้เราได้มีโอกาสเดินชม ห้องเก็บภาพและเรื่องราวของเจ้าฟ้าหลายพระองค์แห่งเมืองเชียงตุงในอดีต นอกจากนั้นยังมีภาพปราสาทและวัดต่างๆของชาวไทใหญ่ ซึ่งสวยงามเป็นอย่างมาก ติดกับห้องเก็บภาพยังมีศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้เราได้กราบไหว้ ณ สุดเขตประเทศไทย
ด่านหลักแต่งอีกด้วย ด่านหลักแต่ง เป็นเส้นทางการค้าที่มีศักยภาพสูง สามารถเชื่อมต่อกับเมืองตองยี โดยมีระยะทาง 227 กิโลเมตร และในอนาคตสามารถเปิดเป็นเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวไปยังเมืองมัณฑะเลย์ได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยการร่วมมือร่วมใจจากทั้งสองประเทศ จากมุมมองของเราคิดว่า ถ้าเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศพม่าสงบการเปิดด่านหลักแต่งคงไม่ไกลเกินเอื้อมนัก
สถานที่สุดท้ายของการเดินทางในวันนี้นั่นก็คือ การแวะเยี่ยมชม “โครงการสถานีสาธิตและถ่ายทอดการเกษตร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ บ้านแปกแซม” ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 โดยได้รับการต้อนรับและอธิบายถึงความเป็นมาของที่นี่ จากนาย โยธิน จันทวี (หัวหน้าสถานีสาธิตฯแปกแซม) โดยการเดินทางมายังที่นี่ของเรา ต้องฝ่ากับสายฝนและถนนที่เป็นดินลูกลัง ต้องเดินทางต่อด้วยรถโฟร์วีล พวกเราทุกคนสามัคคีพร้อมใจกันใส่เสื้อกันฝน แต่นั่นก็ไม่ทำให้พวกเราย่อท้อแต่อย่างใด กลับสร้างเสียงหัวเราะครื้นเครงเพราะนั่งรถกระบะด้านหลังหัวสั่นหัวคลอน ทั้งจับทั้งเกาะกันเนื่องจากทางขึ้นเขาสูงชัน แต่ก็ไม่ได้ชันมาก เพียงแต่ฝนตกลงมาจึงทำให้ถนนค่อนข้างลื่นเท่านั้น นั่งไม่ไกลเราก็ขึ้นไปถึงยังสถานีด้านบน ไปถึงยังไม่ทันจะลงรถพวกเราก็ต้องอุทานกันเสียงดัง เนื่องจากวิวด้านหน้า สวยงามเป็นอย่างมาก สายลม เมฆหมอก และทิวเขาทอดไกลสุดลูกหูลูกตา ช่างเป็นภาพที่ประทับใจยิ่งนัก จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ เราสามารถมานอนกางเต็นท์ ณ จุดชมวิวแห่งนี้ได้ และที่นี่เองยังมีบ้านพักไว้ให้บริการกับนักท่องเที่ยว ในราคาที่เรียกว่าได้ว่า(แล้วแต่จะให้)กันเลยทีเดียว…ดีจัง!!
โครงการสาธิตแปกแซม มีพื้นที่กว่า 20,000 ไร่ เป็นสถานที่ทดลองปลูกพืชและไม้ผลเมืองหนาวหลากหลายชนิด อาทิ ไม้สน (ซึ่งนำไปใช้สร้างบ้านสไตล์ค็อจเทจ คล้ายกับบ้านในประเทศสวิซเซอร์แลนด์) ชาตังกุย ลิ้นจี่ นอกจากนี้พื้นที่แห่งนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์สายพันธุ์หายากหลายชนิด เช่น เต่าปูลู(มีหางยาว) ซาลาแมนเดอร์ และ กว่างสายพันธุ์หายาก โครงการสาธิตแปกแซมแห่งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ เคยเสด็จเยือนและมีพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 16 มี.ค 2547 โดยเราได้มีโอกาสเดินเยี่ยมชมพลับพลาทรงงานของพระองค์ท่านอีกด้วย ทั้งนี้นอกจากเราจะได้ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแล้วยังได้เห็นถึงสายพระเนตรอันกว้างไกลของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ ที่ทำเพื่อประชาชนชาวไทยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลอย่างแท้จริง
เสร็จสิ้นภาระกิจการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เราก็ได้รับการต้อนรับจากนายอำเภอเวียงแหง และชมการแสดงท้องถิ่น รำนกกิ่งกะหร่าและการแสดงจากโต ซึ่งเป็นการแสดงที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง หรือ ในพิธีการสำคัญเท่านั้น ซึ่งการแสดงเหล่านี้ เป็นการแสดงตามความเชื่อของชาวไทใหญ่โบราณ
จากนั้นเราจึงเดินทางเข้าที่พัก โดยในครั้งนี้ถือเป็นโชคดีที่เรามีโอกาสได้มาพักยัง “เฮือนกิ่งกะหร่า” ที่พักที่มีวิวสวยงาม(วิวจากร้านกาแฟ)ที่นอนนุ่มๆ บรรยากาศแสนจะโรแมนติค(แต่นอนคนเดียวอีกแล้ว…มโนไปก่อนนะ 55) นอนนับดาวนับเลขกันไป(เอ้ย!!ไม่ใช่ละ) ตื่นเช้า!! ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ที่บ้านเปียงหลวงนี้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีนะ(รู้ยัง!!)….
“พระธาตุแสนไหเป็นศรี ประเพณีหลายเผ่า ชมทิวเขาสุดสยาม งามล้ำค่าฟ้าเวียงแหง” เป็นคำขวัญเวียงแหงที่ไม่ไกลเกินจริงเลย มาเที่ยวเวียงแหงกันแล้วคุณจะหลงรักที่นี่เหมือนกับเรา ติดตามอ่าน แอ่วดี ตอน เที่ยว 3 ด่านเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ตอนที่ 2 แอ่วเชียงดาว ชมกิ่วผาวอก(ตอนต่อไป..ได้ในเร็วๆนี้ค่ะ)
ขอบคุณสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ที่ให้โอกาสเราได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์การการเดินทางท่องเที่ยวที่แสนประทับใจนี้
ติดต่อสอบถามข้อมูลที่พักและร้านอาหาร
จองบ้านพักสถานีฯแปกแซม ติดต่อได้ที่เบอร์โทร 099-3727007
ร้านอาหารครัวเปียงหลวง(พิกัด: จำง่ายๆจะอยู่ติดกับวัดเปียงหลวง) ติดต่อได้ที่เบอร์โทร 086-6656607
บ้านพัก เฮือนกิ่งกะหร่า(บ้านพักจะอยู่ซ้ายมือ ติดกับป้ายทางเข้าหมู่บ้านเปียงหลวง) ติดต่อได้ที่เบอร์โทร คุณไก่ 087-1815055
ภาพและบทความ ปาณิสรา นฤประชา