ชมวิวม่อนดอยลาง ล่องเรือ ณ ริมน้ำกก
จิบชาอุ่นๆ ในยามเช้ากับวิวภูเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ณ ม่อนดอยลาง เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม!!…เที่ยวดอยในฤดูฝนก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่งนะ เพราะนอกจากจะมีไอหมอกบางๆแล้วยังมีสายฝนโปรยปรายลงมา ให้เราได้สูดกลิ่นดินจากฝนที่เพิ่งตกใหม่ ต้นไม้ ใบหญ้า ก็เขียวขจี ดอกไม้ป่าแข่งกันเบ่งบานชูช่อเห็นแล้วก็สดชื่นขึ้นได้ไม่น้อย
ยืนชมวิวจนเพลิน ท้องก็แอบร้องเบาๆ นับเป็นโชคดีของเรานะ ที่ได้ทานอาหารบนยอดดอยลาง พร้อมอาหารท้องถิ่น จากชาวไทใหญ่ คั่วไก่เสิร์ฟมาในกระบอกไม้ไผ่ ข้าวสวยห่อใบไม้ น้ำพริกทานคู่กับผักสดพื้นบ้านหน้าตาแปลกๆ และข้าวส้ม(ข้าวสวยผัดกับน้ำมะเขือเทศสด) นั่งทานพร้อมกับชมวิวสวยๆ ของยอดดอย ช่วยให้เราเจริญอาหารได้ไม่น้อย
อิ่มกายอิ่มใจก็ได้เวลาออกเดินทางเยี่ยมชมหมู่บ้าน ปางใน อ.แม่อาย ชมกรรมวิธีการผลิตชาแบบท้องถิ่น และได้มีโอกาสลองสวม “กุบมอง” ซึ่งเป็นภาษาไทใหญ่ แปลว่า หมวกสวม โดยหมวกจะทำมาจากต้นไผ่ แย่งกันสวมกุบมองกันอย่างสนุกสนาน ต่อจากนั้นก็เดินชมวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น บางครั้งมันก็ดีต่อใจจริงๆนะ เพราะนอกจากจะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นแล้ว ยังได้เห็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจของชาวบ้าน จากการพูดคุยกับชาวบ้านของที่นี่ ทุกคนตื่นเต้นกับการมาเยี่ยมเยือนของเราในครั้งนี้ ทุกคนตื่นแต่เช้าเพียงเพื่อแต่งตัวรอเราหลายชั่วโมง นั่นยิ่งทำให้เราประทับใจและสุขใจกับการมาในครั้งนี้ การท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น บางครั้งมันก็สุขใจกว่าการเดินห้างหรูๆ อีกนะ
เดินตะลุยหมู่บ้านจนทั่วแล้ว จากนั้นเราก็นั่งรถโฟร์วีลขึ้นดอย เพื่อไปนมัสการ “พระธาตุดอยเวียงลาง” พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านสักการะบูชา พร้อมกับชมป้อมปืนของขุนซ่าในอดีต ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะมีป้อมปืนแล้ว ยังมีทางลับใต้ดินให้เราได้เดินสำรวจอีกด้วยนะ แต่เราไม่สามารถเดินเข้าไปชมเหมือนคนอื่นๆได้ เนื่องมาจากมีคนแอบกระซิบบอกกับเราว่า มีแมงมุมขายาวเยอะมากเกาะอยู่ตามผนังทางเดิน ได้ยินดังนั้นขามันก็เหมือนจะก้าวไม่ออกในทันที แต่สำหรับใครที่กลัวแมงมุมเหมือนกับเราก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะคนดูแลสถานที่รับปากกับเราอย่างแข็งขันว่ากลับมาคราวหน้าจะไม่มีอย่างแน่นอน ….
โบกมืออำลาดอยลางแล้ว เราก็พร้อมสำหรับการนั่งเรือชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมลำน้ำกก โดยเราขึ้นเรือที่ท่าเรือสาธารณะบ้านท่าตอน เรือที่จะพาเราชมวิวในครั้งนี้เป็นเรือหางยาว สำหรับใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเค้ามีเสื้อชูชีพแจกให้เราได้ใส่ ปลอดภัย สบายใจ หายห่วง….เริ่มออกเดินทางกันเลย!!
การนั่งเรือในครั้งนี้นอกจากเราจะตื่นตาตื่นใจกับวิวสองข้างทาง ที่มีทั้งบ้านไม้ทรงโบราณ และวัดซึ่งมีมากมาย ตลอดสองฟากฝั่ง โดยวัดส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นศิลปะแบบไทใหญ่ มีหลังคาเรียงรายเป็นชั้นๆลดหลั่นกันขึ้นไป การชมวิวสองฟากฝั่งบ้างก็มีเด็กๆออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน แต่ ไม่ได้มีแค่เด็กเท่านั้นนะ!! ที่ออกมาเล่นน้ำ… แม้แต่น้องหมาก็ชวนเพื่อนมาเล่นน้ำกันอีกด้วย
กับวันที่อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าสีคราม สายลมเย็นๆ น้ำกระเซ็นเป็นละอองกระทบใบหน้าเบาๆ ชมวิวสวยๆแบบตาปรอย….(เอ๊ะ!! หรือจะง่วง) นั่งเรือชมวิวในครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็ถึงยังจุดหมายปลายทาง โดยเรือจอดส่งเรายังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นอันสิ้นสุดการเดินทาง
การล่องเรือในครั้งนี้ทำเราประทับใจไปไม่น้อยเลย สัญญากับตัวเองว่าเราจะกลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง เพราะระหว่างตอนล่องเรือ เราได้เห็นวัดของที่นี่ หลายๆวัดมีความสวยงามมาก ซึ่ง อำเภอแม่อายนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องวัดเก่าแก่โบราณ มีศิลปะแบบไทใหญ่เป็นจำนวนมาก
อำเภอแม่อาย อาจจะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจไม่น้อย จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางมายังที่นี่ประมาณ 3 ชั่วโมง กับระยะทาง 173 กิโลเมตร ไม่ไกลนะ…ว่ามั้ย!!
ขอบคุณสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ที่ให้โอกาสเราได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์การการเดินทางท่องเที่ยวที่แสนประทับใจนี้
ติดต่อสอบถามข้อมูลที่พักและร้านอาหาร
- โฮมสเตย์ม่อนดอยลาง และนำชมท่องเที่ยว แม่หลวงผ่องศรี 081-7969334 , 098-5644914
รีวิว/ภาพ ปาณิสรา นฤประชา