สวัสดีฤดูร้อน@น้ำตกแม่สะป๊อก

สายน้ำแห่งขุนเขา “น้ำตกแม่สะป๊อก” ฤดูร้อนเริ่มมาเยือน…เราอยากไปเที่ยวที่ไหนกัน!! นึกถึงสายลมเย็นๆ นั่งฟังเสียงสายน้ำ นกร้อง ละอองน้ำปลิวกระทบเบาๆ (ฟินฝุดๆ) คลายร้อนเบาๆด้วยการไปเที่ยวน้ำตก…กับวันหยุดสุดสัปดาห์ ไปปิกนิคกัน…พร้อมไหม!!

น้ำตกแม่สะป๊อก หรือ ถ้ำน้ำตกม่านฟ้า  แห่งศูนย์วิจัยโครงการหลวงแม่สะป๊อก ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่  ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ระยะทางจากตัวเมือง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง…แค่นี้เราก็จะได้พบกับน้ำตกสวยๆ เชื่อว่าน้ำตกแห่งนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก!!

การเดินทาง  ใช้เส้นทางถนนคันคลองชลประทานหางดง – สันป่าตอง ขับตรงมาเรื่อยๆ จะพบกับสี่แยกไฟแดง จะเห็นป้ายแยก อ.แม่วาง เลี้ยวตามป้ายได้เลย การเดินทางไปน้ำตกแม่สะป๊อก ของเราในครั้งนี้ ถนนสะดวกสบาย เหมาะสำหรับรถทุกชนิด…ขับชิวๆฟินๆกันตามอัธยาศัย แต่อย่าขับเร็วจนเกินไป เนื่องจากถนนบางช่วงจะแคบและชัน

ขับมาตามเส้นทางเรื่อยๆ พอเห็นป้าย “โครงการหลวงแม่สะป๊อก” ทางด้านซ้ายมือ ก็เตรียมเลี้ยวได้เลย

***โครงการหลวงแม่สะป๊อก จะอยู่ก่อนถึงโครงการหลวงขุนวาง(ที่เราไปดูดอกนางพญาเสือโคร่งกัน)

จากปากทางขับเข้ามาไม่ไกลมากนัก เราก็จะเห็นป้าย “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะป๊อก” ก็เลี้ยวเข้ามายังด้านในได้เลย ขับผ่านอ่างเก็บน้ำเข้ามา จนสุดถนน จะเจอที่จอดรถ

***ภายในด้านในโครงการหลวง ใกล้จุดจอดรถจะมี “สโมสรแม่สะป๊อก” ซึ่งเป็นร้านค้า ขายน้ำ ขนม และก๋วยเตี๋ยว โดยก๋วยเตี๋ยวที่นี่จะใช้ผักจากโครงการหลวง กรอบ อร่อย…ราคาไม่แพงด้วย***

จากจุดจอดเพียงหันหลังกลับ เราก็จะพบกับป้ายทางเข้าน้ำตก โดยจากจุดจอดเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร(ไม่ไกลมาก พอหอบนิดหน่อย อ๊ะๆ!!แต่ทางไม่ได้ชันนะ..แต่เป็นเราเองที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ^^)

เดินมาไม่ไกล เราจะพบกับสถูปเจดีย์เก่าแก่ แต่ไม่มีประวัติมากมายนัก แต่มีกระท่อม หลายหลังคิดว่าน่าจะมีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการมาปฎิบัติธรรม โดยจะสังเกตเห็นรูปปั้น นั่นก็คือ ครูบาอภิชัย(ขาวปี) ถัดจากสถูปเจดีย์ เราก็จะพบกับน้ำตก น้ำจากหน้าผาสูงชัน มีลานหินโล่งกว้าง เราสามารถเล่นน้ำได้แบบสบายๆ แต่หินจะลื่นสักนิดนึง ควรเดินด้วยความระมัดระวัง(มีเคล็ดลับ ให้เดินไม่ลื่นนั่นก็คือ นำทรายที่อยู่ในน้ำ กอบมาเหวี่ยงไปบนทางเดิน เพื่อกันลื่น เป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่งที่ได้จากไกด์ค่ะ)

น้ำตกแม่สะป๊อก เป็นน้ำตกที่สามารถเดินขึ้นไปชมความงามยังชั้น 2 ได้ เฉพาะฤดูแล้ง(ฤดูไหนก็ได้ที่น้ำไม่เยอะ เพราะฤดูน้ำหลากจะอันตรายค่ะ ไม่สามารถขึ้นไปได้)  ทางขึ้นจะมีป้ายชี้บอกทางเล็กๆ เดินขึ้นไปไม่ไกล จะมีชะง่อนถ้ำยื่นออกมา เหมือนเรายืนอยู่ใต้น้ำตก โดยทางผ่านเราจะพบกับพระพุทธรูปปางนาคปรกกับพระฤาษี กราบไหว้กันก่อน เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อแคล้วคลาดปลอดภัยในการเดินทาง..ตามความเชื่อของไทยๆ

ด้วยความโชคดีของเรา ที่ได้พบกับสายรุ้ง ซึ่งสาดแสงโค้งบนตัวน้ำตกพอดี..เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นรุ้งชัดขนาดนี้และเห็นในระยะใกล้ ใต้น้ำตก ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยงาม ยิ่งแดดจัด สายรุ้งก็ยิ่งเข้มเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น

*** การเดินใต้น้ำตก ทางค่อนข้างแคบ ควรเดินด้วยความระมัดระวัง ไม่เหมาะกับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ***

ภาพและบทความ ปาณิสรา